Home > คอลัมน์ท่านเอกอัครราชทูต
เอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนลงพื้นที่สำรวจวิจัยเรื่องการบรรเทาความยากจน
2019-12-08 19:15

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม เอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนนำคณะทำงานจากสถานเอกอัครราชทูตจีนลงพื้นที่สำรวจการแก้ปัญหาความยากจนในจังหวัดนครปฐมและจังหวัดสุพรรณบุรี ตามคำเชิญจากศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี โดยได้พบปะกับนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ทั้งนี้ทุกฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนความเห็นในเชิงลึกกับตัวแทนจากสาขาอาชีพต่างๆ ทั้งผู้นำท้องถิ่น นักธุรกิจ นักการศึกษาและนักวิชาการ เป็นต้น อีกทั้งเยี่ยมชมโครงการสาธิตการบรรเทาความยากจนในพื้นที่

   
เอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนกล่าวในระหว่างการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับฝ่ายไทยว่า เมื่อไม่นานมานี้ การประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเต็มคณะครั้งที่ 4 ของสมัชชาที่ 19 ได้มีมติเกี่ยวกับการยึดมั่นและพัฒนาสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน การยกระดับความทันสมัยของระบอบการปกครองและการพัฒนาศักยภาพการบริหาร โดยได้เสนอภารกิจและตั้งเป้าหมายต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงภารกิจด้านการแก้ไขปัญหาความยากจนด้วย รัฐบาลจีนยืนหยัดดำเนินการ“แก้จนแบบตรงจุด”ตามแนวคิดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา มีประชากรจีนกว่า 80 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน และจีนกำหนดเป้าหมายขจัดความยากจนขั้นสูงสุดภายในปี 2020 การแก้ปัญหาความยากจนเป็นภารกิจที่จีนและไทยเผชิญร่วมกัน จีนมีความยินดีที่จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์อันมีประโยชน์จากผลสำเร็จในการแก้ไขความยากจน เพื่อช่วยประสานงานระหว่างวิสาหกิจและองค์กรของทั้งสองประเทศ รวมทั้งเพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนระดับรากหญ้าของไทยหลุดพ้นจากความยากจนในเร็ววัน เชื่อว่าภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงราชการที่ 9 และโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนของราชการที่ 10 จะทำให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของประเทศ

   
เอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนได้ร่วมเสวนากับอาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของการบรรเทาความยากจนที่มหาวิทยาลัยได้กำหนดไว้ อีกทั้งลงพื้นที่สำรวจของโครงการบรรเทาความยากจนในชนบทอย่างลึกซึ้ง เช่นการปลูกและปรับปรุงการแปรรูปของส้มโอ การเพาะเชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น ตลอดจนได้เข้าเยี่ยมครอบครัวยากไร้ในพื้นที่อีกด้วย ผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ ได้กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตจีนสำหรับประสิทธิผลเบื้องต้นของโครงการนำร่องในการบรรเทาความยากจนซึ่งมหาวิทยาลัยฯได้แนวทางมาจากประสบการณ์แก้จนของประเทศจีน

   
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย องคมนตรีได้แนะนำว่า ตนได้เดินทางไปศึกษาการบรรเทาความยากจนของประเทศจีนหลายครั้ง และเห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่ว่า “ทำบนพื้นฐานความเป็นจริง สร้างประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่ ทำโดยแยกประเภทอย่างชัดเจน และแก้ปัญหาความยากจนอย่างตรงจุด” อีกทั้งได้ยกย่องในความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของจีนตลอด 70 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งกล่าวว่า ประเทศไทยควรเรียนรู้จากประสบการณ์การพัฒนาของจีนอย่างรอบด้าน ทั้งการบรรเทาความยากจน การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งสองประเทศควรเพิ่มความร่วมมืออย่างจริงจังในการลดความยากจน การเกษตรสมัยใหม่ และการศึกษา เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนระดับรากหญ้าของไทยหลุดพ้นจากความยากและสร้างความมั่งคั่งในเร็ววัน

   

Suggest To A Friend:   
Print