เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงได้รับการทูลเกล้า ฯ ถวายเครื่องอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ณ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดยมีบุคคลสำคัญทางการเมือง เช่นนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและภริยา นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมและภริยา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลเอก นาวิน ดำริกาญจน์ ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-จีน พร้อมด้วยบุคคลที่เป็นมิตรของจีนจากแวดวงต่างๆราว120คนเข้าร่วมงาน
ขณะที่กล่าวปาฐกถา เอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนได้ถวายความยินดีและความคารวะอย่างสูงสุดแด่กรมสมเด็จพระเทพฯ และยกย่องสรรเสริญที่ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา พระองค์ทรงศึกษาและส่งเสริมวัฒนธรรมจีน ทรงผลักดันความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่างจีน-ไทย และทรงห่วงใยประชาชนทั้งสองประเทศ อีกทั้งทรงมีคุณูปการอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมมิตรภาพจีน–ไทย เอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนกล่าวว่า กรมสมเด็จพระเทพฯได้รับการทูลเกล้าฯถวายเครื่องอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งของการยกระดับมิตรภาพของคำกล่าวที่เรียกว่า "จีนไทยมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน"ในยุคสมัยใหม่ ทั้งนี้ขอเชิญชวนให้เพื่อนจากแวดวงต่างๆ ร่วมเป็นผู้สร้างสรรค์และส่งเสริมมิตรภาพจีน-ไทยในยุคสมัยใหม่ ร่วมกันผลักดันความสัมพันธ์จีน-ไทย เพื่อสานต่อ"มิตรภาพพันปียืนยง ประสานมือสร้างสรรค์รุ่งโรจน์"
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงตรัสว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาเยือนสถานทูตอีกครั้งและขอบคุณสถานทูตที่ได้จัดงานเฉลิมฉลองครั้งนี้ขึ้นด้วยความตั้งใจ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นสักขีพยานและมีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์จีน-ไทย และจะใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมมิตรภาพจีน-ไทยให้ก้าวหน้าและใกล้ชิดกันมากขึ้น นอกจากนี้ พระองค์ยังให้แขกผู้มีเกียรติชื่นชม "เครื่องอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์" ก่อนที่เอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนจะแนะนำแนวคิดการออกแบบเครื่องอิสริยาภรณ์ดังกล่าวอย่างละเอียดว่า เครื่องอิสริยาภรณ์นี้สะท้อนถึงมิตรภาพที่ยาวนานและความสามัคคีระหว่างประชาชนจีนกับประชาชนของประเทศต่างๆ แฝงไว้ด้วยความปรารถนาดีที่จะให้ประเทศต่างๆ พัฒนาความเจริญรุ่งเรื่องไปด้วยกัน
หลังจากนั้นกรมสมเด็จพระเทพฯ ได้ทรงทอดพระเนตรงานแสดงรูปถ่ายชื่อ "กรมสมเด็จฯพระเทพ: มหามิตรจีน-ไทย" พร้อมกับนายหลู่ย์ เจี้ยนและภริยา ทรงทอดพระเนตรวิดีโอสั้นที่จัดทำโดยสถานทูตจีนเป็นพิเศษ รวมทั้งรับฟังการร้องเพลงของคณะนักการทูตจากสถานทูตจีนในเพลง "เจ้าฟ้าของคนเดินดิน" และเพลง "เทียนเย่าจงหัว" โดยมีการขับร้องเป็นภาษาไทยและภาษาจีน ทำให้แขกทั้งจีนและไทยต่างซาบซึ้งจนน้ำตาไหล นอกจากนี้ยังมีศิลปินจีนและไทยร่วมแสดงบรรเลงดนตรี เต้นรำ ร้องเพลงเดี่ยว และการแสดงพูดร้องตามจังหวะ ฯลฯ เพื่อถวายพระพรแด่กรมสมเด็จพระเทพฯ ในระหว่างงานนั้น พระองค์ทรงหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกภาพไว้ กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงวาดภาพฝีพระหัตถ์การ์ตูนหนูทองเพื่อมอบให้สถานทูต และเอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนก็ได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระบรมสาทิสลักษณ์กรมสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินจีนแก่พระองค์ด้วย