Home > คอลัมน์ท่านเอกอัครราชทูต
กิจกรรม "CHINA DAY" จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติกรุงเทพฯ
2019-10-19 21:29

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้จัดกิจกรรม “CHINA DAY” ขึ้นที่ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายในงาน มีสุนทรพจน์จากเอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนและนาง Armida Salsiah Alisjahbana รองเลขาธิการสหประชาชาติและเลขาธิการบริหารคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UN ESCAP) นอกจากนี้ ผู้ร่วมงานยังประกอบด้วยนักการทูตจากประเทศต่างๆที่ประจำอยู่ในประเทศไทย ตัวแทนจาก UN ESCAP ผู้รับผิดชอบจากส่วนงานต่างๆ ของ UN ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากประเทศต่างๆ รวมกว่า 200 คน

เอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนกล่าวย้อนถึงความสำเร็จของจีนตลอด 70 ปีหลังการสถาปนาจีนใหม่และคุณูปการอย่างมหาศาลที่จีนมีต่อการพัฒนาของโลก ท่านกล่าวว่า ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 70 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจีนได้ใช้เวลาสั้นๆเพียง 70 ปีเพื่อบรรลุก้าวกระโดดอันยิ่งใหญ่ ตั้งแต่การยืนด้วยตนเอง สู่การสร้างความมั่งคั่ง และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ประเทศชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นปาฏิหาริย์ในประวัติศาสตร์การพัฒนาของมวลมนุษยชาติ

เอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนกล่าวว่า ปัจจุบัน ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและการต่อต้านโลกาภิวัตน์เพิ่มมากขึ้น และมีการลุกคืบของแนวคิดปกป้องนิยมในทางการค้า ซึ่งเป็นการท้าทายเศรษฐกิจโลกรวมถึงเศรษฐกิจจีนด้วย ดังนั้น ประเทศต่างๆจึงควรร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนแนวคิดพหุภาคีและสร้างเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนสามารถปรับตัวได้ดี การปฏิรูปโครงสร้างอุปทานของจีนยังส่งผลให้เกิดความคล่องตัวภายในอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งแนวคิดด้านนวัตกรรมการพัฒนา ได้มีบทบาทส่งเสริมคุณภาพและประสิทธิผลของการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น สภาพแวดล้อมของระบบนิเวศถูกพัฒนาดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เศรษฐกิจจีนจะรักษาระดับการพัฒนาที่มีเสถียรภาพ ค่อนข้างรวดเร็ว และยั่งยืนต่อไป ชาวจีนมีความมั่นใจและความสามารถในการบรรลุการฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของประเทศและจีนจะสร้างคุณูปการต่อมวลมนุษยชาติเพิ่มมากขึ้น

เอกอัครราชทูตหลู่ย์ เจี้ยนย้ำว่า ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ จีนและ UN ESCAP ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ในระหว่างการประชุมสุดยอดความร่วมมือระหว่างประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ครั้งที่สอง ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามว่าจะยึดมั่นในแนวคิดการเปิดกว้าง การรักษาสิ่งแวดล้อม และความโปร่งใส ตลอดจนจะเพิ่มความร่วมมือในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง การค้า พลังงานและนวัตกรรม ฯลฯ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2573 ภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

นาง Armida Salsiah Alisjahbana รองเลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า จีนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในช่วง 70 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่การปฏิรูปและเปิดประเทศจีน ความพยายามอย่างมากของจีนในการลดความยากจนได้ทำให้คนมากกว่า 800 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนอย่างที่สุด จีนมีคุณูปการเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องในเวทีโลก และมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อองค์การสหประชาชาติโดยเฉพาะการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2573 ในอนาคต UN ESCAP จะกระชับความร่วมมือกับจีนในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเชื่อมโยงและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานสะอาด และการบรรเทาความยากจน เป็นต้น ข้าพเจ้าขออวยพรให้ประเทศจีนจะประสบความสำเร็จในการพัฒนามากยิ่งขึ้น

แขกผู้ร่วมงานได้เยี่ยมชมนิทรรศการภาพถ่ายความสำเร็จ 70 ปีของประเทศจีนใหม่ รวมทั้งได้รับชมการแสดงชงชา เขียนพู่กันจีน วาดภาพจีน การขับร้องเพลงจีนพื้นบ้าน และการเต้นรำจีนทั้งสมัยใหม่และดั้งเดิม ที่ทำการแสดงโดยศิลปินจากเสฉวน ยูนนาน หูหนาน และศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีนประจำกรุงเทพฯ แขกผู้ร่วมงานต่างแสดงความเห็นว่า กิจกรรม “CHINA DAY” ช่วยให้ทุกคนได้สัมผัสใกล้ชิดถึงประเทศจีนที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัย ประเทศจีนที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม และประเทศจีนที่เปิดกว้างสู่ทั่วโลก นอกจากนี้ กิจกรรมดังกล่าวยังกระตุ้นให้สังคมโลกฉุดคิดและร่วมกันอภิปรายในเชิงลึกถึงการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของประเทศจีน

Suggest To A Friend:   
Print